สะเก็ดเงิน เป็นผื่นผิวหนังเรื้อรังที่ไม่หายขาด

สะเก็ดเงิน เกิดจากความผิดปกติของภูมิคุ้มกัน และการทำงานของเม็ดเลือดขาวที่เพิ่มขึ้นทำให้เซลล์ผิวหนังเกิดการแบ่งตัวเร็วขึ้นมากกว่าปกติ การพัฒนาการเจริญเติบโตของผิวหนังจึงไม่สมบูรณ์ อาการที่พบได้คือเป็นผื่นสีแดงค่อนข้างหนาปกคลุมด้วยสะเก็ดสีเทาเงิน เมื่อขูดลอกสะเก็ดออกจะพบจุดเลือดเล็ก ๆ ใต้ผิวหนัง มักพบบริเวณข้อศอก เข่า หลังส่วนล่าง และหนังศีรษะ ผื่นอาจมีขนาดเล็กและขนาดใหญ่ทั่วร่างกาย
ลักษณะของโรค สะเก็ดเงิน พบเซลล์ผิวหนังบริเวณรอยโรคมีการแบ่งตัวเร็วกว่าปกติ ซึ่งปกติเซลล์ขึ้นบนผิวหนังเจริญเติบโตแทนที่ เซลล์ผิวหนังที่ตาย และหลุดลอกออกในเวลา 4 สัปดาห์ แต่ในผู้ป่วยโรคนี้ใช้เวลาเพียง 3-4 วันเท่านั้น ทำให้พบว่าเซลล์ ผิวหนังจะหนาเป็นปื้น มีสะเก็ดขาวปกคลุม เมื่อดึงให้สะเก็ดหลุดออกจะเห็นเลือดออกเป็นจุดใต้ผิวหนัง รอยโรคพบได้ที่ ผิวหนังทุกส่วนของร่างกาย แต่ส่วนใหญ่มักพบบริเวณศีรษะ เข่า ศอก ก้นกบ หน้าแข้ง บางรายอาจพบความผิดปกติที่เล็บ โดยเล็บจะเป็นรอยบุ๋ม มีจุดสีน้ำตาลใต้เล็บ เล็บอาจเป็นสีเหลืองหรือน้ำตาล บางครั้งอาจมีเล็บล่อน หนาขึ้น หรือ มีเลือดออกเป็นสายตามยาวเล็บ ผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงอาจมีข้ออักเสบร่วมด้วย ข้อที่พบมักเป็นข้อนิ้วมือ นิ้วเท้า ถ้าไม่รักษาให้ถูกต้องข้ออาจถูกทำลายทำให้ข้อผิดรูปได้ เช่น ข้อแข็งงอ ข้อบวมอักเสบ เป็นต้น
แนวคิดในการรักษาโรคสะเก็ดเงิน
– เป้าหมายอีกประการหนึ่งของการรักษาโรคสะเก็ดเงินคือ ทำให้ผู้ป่วยสามารถอยู่ร่วมกับโรคสะเก็ดเงินได้ซึ่งหมายความว่าแม้จะไม่หายขาดแต่ก็สามารถที่จะเข้าใจธรรมชาติการเกิดโรค และรู้จักอยู่ร่วมโดยใช้ช่วงชีวิตที่มีอยู่ให้มีช่วงที่โรคสงบยาวนานที่สุดในขณะที่สามารถค้นหาปัจจัยกระตุ้นและจัดการดูแลตัวเองเบื้องต้นในการกำจัดปัจจัยกระตุ้นออกให้เร็วที่สุด กล่าวได้ว่าเป้าหมายในปัจจุบันของการรักษาสะเก็ดเงินคือการเข้าใจโรคและปรับตัวจนเป็นผู้ป่วยสะเก็ดเงินมืออาชีพนั่นเอง
– การลดความสูญเสียและความพิการอันเกิดจากโรคร่วมและภาวะแทรกซ้อนเช่นจาก โรคข้ออักเสบสะเก็ดเงิน หรือ ภาวะอ้วนลงพุง โรคหัวใจและหลอดเลือด ภาวะโรคอ้วน เป็นอีกสิ่งที่ในปัจจุบันนี้สามารถทำได้โดยค้นหาปัจจัยเสี่ยงและเฝ้าระวังอย่างสม่ำเสมอ

การดูแลตนเอง เนื่องจาก สะเก็ดเงิน เป็นโรคที่เรื้อรัง อาจกำเริบเป็นๆ หายๆ ได้ ดังนั้นการดูแลตนเองนับเป็นปัจจัยหลักใน การรักษาเช่นกัน โดยควรพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ทำจิตใจให้ผ่องใส ไม่เครียด หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เพราะอาจทำให้อาการของโรคกำเริบได้